โลกจะเปลี่ยนไปหลังเหตุการณ์ Coivd19
จากเหตุการณ์ปัจจุบันที่การระบาดของ Covid19 ระบาดไปทุกหย่อมหญ้า ระบาดไปทั่วประเทศ และทั่วโลก สร้างความแตกตื่นและผลกระทบให้กับทุกๆธุรกิจไม่ว่าจะกระทบแล้วดีขึ้นหรือกระทบแล้วแย่ลง แม้นว่าหลายธุรกิจนั้นถูกผลกระทบทางลบ แต่ก็หลายธุรกิจที่กระทบน้อยและมีบ้างที่ได้ผลกระทบทางบวก เรามาดูกันว่าโลกจะเปลี่ยนไปอย่างไรกันบ้างจากวิกฤติครั้งนี้
- แผนสำรอง: หลายธุรกิจแม้ว่าจะมีเตรียมแผนสำรองไว้ แต่จะเป็นแผนสำรองเพื่อรองรับกับเหตุการณ์ทั่วไป ไม่เคยมีนโยบายในกรณี worst case ว่าจะต้องรับมืออย่างไร ไม่มีการวางแผนสำหรับการไม่มีรายได้เป็นช่วงหลายๆเดือน ไม่ได้มีเตรียมงบสำหรับค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน ดังนั้นพอเหตุการณ์การระบาดของ Covid19 เกิดขึ้นมา ทำให้หลายธุรกิจต้องม้วนเสื่อกลับบ้าน หรือ แม้แต่ต้องตัดเนื้อห้ามเลือดไม่ให้ธุรกิจต้องเจ๊งไปด้วยการเลิกจ้างพนักงานซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายหลักๆสำหรับธุรกิจ หลังจากนี้ หลายบริษัทจำเป็นต้องทำแผนสำรองเอาไว้สำหรับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดแบบนี้ ไม่ว่าจะเป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติ การระบาดของโรคต่างๆ ปัญหาเศรษฐกิจที่ซบเซา หรือปัญหาอื่นๆที่อาจเกิดขึ้นได้และเตรียมนโยบายต่างๆแผนต่างๆไว้เพื่อรองรับหากต้องเกิดสิ่งเหล่านี้ขึ้นมาจริงๆ
- โครงสร้างระบบการทำงาน: โครงสร้างของระบบนั้นเป็นเรื่องสำคัญมากและคงปฏิเสธไม่ได้ถึงเทคโนโลยีใหม่ๆที่จะมีส่วนเข้ามาเปลี่ยนระบบการทำงาน อินเตอร์เน็ต แอพลิเคชั่น และระบบ Network จะช่วยให้โครงสร้างเหล่านี้เป็นเรื่องเป็นไปได้มากขึ้นกับการสร้างโครงสร้างการทำงานใหม่ ธุรกิจและบริษัทที่ปรับตัวและมีแผนได้เร็วกว่าที่อื่นๆสำหรับการวางระบบการทำงานเอาไว้เมื่อเจอเหตุการณ์การระบาดของ Covid19 ก็สามารถทำให้การดำเนินธุรกิจราบรื่นและต่อเนื่องกว่าบริษัทที่ไม่ได้เตรียมตัวไว้หรือเตรียมไว้แค่บางส่วนยังไม่สมบูรณ์
- ระบบการทำงาน: สำหรับระบบการทำงานนั้น หลายๆบริษัทก็ใช้วิธีการทำงานแบบเข้าออฟฟิตและมีเวลาเข้างานเลิกงานปกติ แต่นั่นอาจจะเหมาะกับเหตุการณ์ปกติหรือยุคสมัยที่ไม่จำเป็นต้องการความยืดหยุ่นในการทำงาน เมื่อเกิดเหตุการณ์การระบาดของ Covid19 นี้ทำให้ระบบการทำงานที่ไม่ยืดหยุ่นกลายเป็นเหมือนโซ่ที่ดึงธุรกิจให้ไม่สามารถทำงานได้เมื่อหลายธุรกิจหลายร้านค้าจำเป็นต้องทิ้งออฟฟิตที่เคยใช้เป็นสถานที่ในการทำงาน การทำงานแบบ Work From Home หรือ WFH ที่เราเริ่มคุ้นกันดีนั้นจะช่วยให้ธุรกิจเดินต่อได้แม้ว่าจะไม่ได้ใช้สถานที่กลางเช่นออฟฟิตในการทำงาน จริงอยู่ที่ว่าหลายบริษัทเริ่มทดลองการทำงานนอกสถานที่ เช่นการทำงานใน co-working space มาก่อนล่วงหน้าบ้างแล้ว แต่ก็เป็นแค่คนกลุ่มบางกลุ่มเท่านั้นที่สามารถทำงานนอกสถานที่ได้โดยไม่ต้องเข้าออฟฟิต ดังนั้นแล้วการที่จะเริ่มสร้างระบบใหม่ด้วยการทำงานนอกสถานที่อย่างจริงจังเมื่อคำนึงถึงเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเหล่านี้และหากเริ่มต้นได้จริงจัง อีกหน่อย ความจำเป็นในเรื่องสถานที่การทำงานเช่นออฟฟิตที่เป็นค่าใช้จ่ายหลักของธุรกิจก็อาจจะสามารถลดลงได้ แต่อย่างไรก็ตามปัญหาของการทำงาน Work From Home ก็คือการควบคุมพฤติกรรมของเหล่าพนักงาน ลูกน้องของเราต่างหาก ว่าจะมีวิธีการใดที่จะสอดส่องดูแลพฤติกรรมให้ทำงานมีประสิทธิภาพแม้ว่าจะทำงานนอกสถานที่หรือทำงานที่บ้าน
แม้ว่าตอนนี้เหตุการณ์การระบาด Covid19 ได้เกิดขึ้นแล้วและหลายธุรกิจที่ไม่ได้ปรับตัวมาก่อนเหตุการณ์นี้แต่ยังไม่สายหากเริ่มปรับตัวและเปลี่ยนระบบเปลี่ยนแนวทางการทำธุรกิจไป เพราะนี่อาจไม่ใช่เหตุการณ์สุดท้ายที่จะเกิดขึ้นบนโลกใบนี้ ในยุคนี้ที่อะไรก็เกิดขึ้นได้ แต่คนที่มองเห็นภาพและคาดการณ์เหตุการณ์ต่างๆล่วงหน้าและเตรียมความพร้อมไว้ก่อน อาจจะได้ประโยชน์และสามารถเดินต่อโดยไม่ต้องเสียเวลา ไม่ต้องสะดุดกับเหตุการณ์ใดๆในอนาคต ไม่ว่าจะอย่างไรใช้สติไตร่ตรองให้มากที่สุด ณ เวลานี้อาจเป็นจุดที่ต้องเครียดและท้อแท้ แต่จะผ่านเหตุการณ์แบบนี้ไปด้วยกัน
———————————————————————–
You must be logged in to post a comment.