7 อาการบอกเหตุว่าเราควรเริ่มต้นทำธุรกิจส่วนตัว

เชื่อว่าหลายๆคนคงจะอยากหาธุรกิจส่วนตัวทำเอง หลายคนอาจจะอิ่มตัวกับการทำงานประจำหรือว่าเบื่อกับงานประจำที่ทำอยู่ หรือไม่ได้เบื่องานแต่รู้สึกอยากทำอะไรเพิ่มเติมอยากทำอะไรที่มากขึ้น อยากได้ความสำเร็จเป็นของตัวเอง แต่เมื่อไรกันที่เราจะรู้สึกว่าเราควรเริ่มต้นทำธุรกิจส่วนตัวกันแล้วมาดูกันเลย

1. อิ่มตัวกับงานประจำ: อาการเบื่อเช้าวันจันทร์และสดชื่นทุกวันศุกร์จะเป็นตัวบอกอาการอย่างหนึ่งว่าคุณอาจจะเบื่องานที่ทำอยู่ ทุกอย่างที่เคยโอเคอาจจะไม่โอเคอีกแล้ว การถูกย้ายตำแหน่งไปยังงานที่ไม่ถนัด ไม่ชอบหัวหน้างาน ไม่ชอบเพื่อนร่วมงาน มีปัญหากับลูกน้อง การไม่ได้โปรโมตทำแหน่งหรือไม่ได้เงินเดือนเพิ่ม หรือแม้แต่ประสบความสำเร็จทุกอย่างแต่มันหมดไฟ มันอิ่มตัวแล้ว สิ่งเหล่านี้อาจเป็นจุดที่ทำให้เราเริ่มคิดแล้วว่าอาจจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่าง ถ้าไม่เริ่มต้นทำงานที่อื่น การเริ่มต้นธุรกิจตัวเองก็อาจจะเป็นโอกาสก็ได้
2. รายได้ไม่พอใช้: เมื่อรายจ่ายมากกว่ารายได้ ทำให้รายได้ไม่พอใช้ นอกจากการหางานเสริมหรือย้ายงานเพื่อให้ได้รายได้มากขึ้น การเริ่มต้นทำธุรกิจส่วนตัวควบไปด้วยอาจเป็นทางเลือกที่ดีในการเพิ่มรายได้ อย่างไรก็ตามการเริ่มต้นธุรกิจไปพร้อมกับการทำงานประจำก็ไม่ควรทำให้เสียโฟกัสกับงานประจำเพราะไม่งั้น อาจกลายเป็นงานประจำก็ทำได้ไม่ดี ธุรกิจส่วนตัวก็อาจจะไม่รุ่งได้
3. อยากหาความท้าทายมากขึ้น: ไม่แปลกที่เมื่อหากผ่านการทำงานมาช่วงนึงจนรู้สึกว่าทุกอย่างมันดูลงตัวและดูง่ายไปหมด การอยากหาความท้าทายมากขึ้นที่ไม่ใช่การไปเป็นพนักงานที่ไหนอีกแล้วแต่เป็นการเริ่มต้นบนเส้นทางบนขาของตัวเองนั้นก็เป็นความท้าทายที่มากขึ้นอยู่ เพราะการทำธุรกิจส่วนตัวนั้นการทำงานจะไม่เหมือนกับตอนที่เราทำงานประจำเลย ไม่ว่าจะเป็นทีมงาน วิธีทำงาน เงินทุน สินค้าต่างๆ และหากมีเงินทุนไม่มาก ในฐานะเจ้าของกิจการอาจจะต้องทำทุกอย่างคนเดียวเพื่อลดต้นทุนให้ธุรกิจได้อยู่รอดมากที่สุด ดังนั้นความชำนาญต่างๆอาจต้องเริ่มเรียนรู้ใหม่ ได้ทำงานตั้งแต่ต้นจนจบในคนเดียวหรือเป็นทุกๆหน้าที่ ทั้งผลิตสินค้า แพ็คสินค้า ทำการตลาด ตอบลูกค้า และอาจจะต้องไปส่งสินค้าด้วยตัวเองด้วยซ้ำ
4. อยากเติมเต็มความฝัน: บางทีความฝันก็เป็นตัวกระตุ้นให้เราอยากลาออกมาจากงานประจำเพื่อทำอะไรเอง แม้อาจไม่เกี่ยวกับรายได้ที่มากขึ้น งานที่ท้าทายมากขึ้น แต่เป็นความฝันมาแต่ไหนแต่ไรว่าอยากมีธุรกิจส่วนตัวของตัวเองจะเล็กก็ได้จะใหญ่ก็ดีซึ่งก็จะทำให้เราเติมเต็มความฝันได้และรู้สึกดี รู้สึกภูมิใจกับตัวเอง
5. เจอไอเดียธุรกิจที่น่าสนใจ: สำหรับบางคนที่ได้เจอธุรกิจดีๆ concept และไอเดียดีๆที่น่าสนใจ เจอ partnert ที่เข้ามาชวนต่อยอดร่วมหุ้นในธุรกิจที่น่าสนใจ หรือว่าการขุดร่อนธุรกิจเฟ้นหาจนเจอว่ามีตลาดแน่ๆ แถมยังไม่ค่อยมีคนมาแข่งอีกเป็นธุรกิจที่น่าสนใจมีอนาคตมากๆ การเจอไอเดียธุรกิจแบบนี้ไม่ว่าจะเป็นการตั้งใจค้นหาหรือว่าการได้เจอด้วยความบังเอิญ ก็เป็นจุดเริ่มที่น่าสนใจในการต่อยอดในการสร้างธุรกิจส่วนตัวต่อไป
6. ต่อยอดเงินออม: การมีเงินออม หลายคนอาจไม่พร้อมจะลงทุนในสินทรัพย์อื่นๆ แต่อาจจะสนใจการลงทุนในธุรกิจส่วนตัวที่ได้ทำเองมากกว่า เช่น เมื่อมีเงินออมก็นำไปเปิดร้านเสื้อผ้า ร้านกาแฟ ร้านอาหาร หรือทำธุรกิจที่มีความชำนาญ มีความสนใจ ก็จะทำให้เงินออมนั้นมีประโยชน์มากกว่าแค่การฝากธนาคาร ซึ่งอาจจะทำให้ผลประกอบการและผลตอบแทนนั้นได้มากกว่าการออมไว้เฉยๆ หรืออย่างน้อยก็ทำให้เงินออมเหล่านี้สร้างฝันให้เป็นจริงขึ้นมาได้
7. ต้องการกระจายความเสี่ยงการลงทุน: ในบางคนนั้น มีเงินลงทุนในธุรกิจ มีเงินลงทุนในหุ้น และตราสารหนี้ต่างๆ รวมถึงอสังหาริมทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นๆอีกมากมาย แต่อาจจะต้องการกระจายความเสี่ยงมากขึ้นโดยใช้ธุรกิจส่วนตัวที่ต้องการทำนี้เป็นอีกทางเลือกนอกจากการลงทุนอื่นๆเผื่ออาจจะเจอวิกฤติเศรษฐกิจก็จะได้มีทั้งธุรกิจที่ถูกผลกระทบทางลบและกระทบทางบวกหรือเรียกว่าการกระจายความเสี่ยงนั่นเอง

เป็นอย่างไรกันบ้าง ตอนนี้เมื่อมาตรวจสอบตัวเองแล้วได้เจอบ้างหรือยังว่าเราควรเริ่มทำอะไรใหม่ๆ ควรเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวแล้วหรือยัง หากได้คำตอบว่าใช่ก็อย่ารีรอที่จะทำ แต่อย่างไรก็ตามอย่าใจร้อนรีบเริ่มทำโดยไม่ได้คิดวิเคราะห์ให้ถี่ถ้วนก่อน อย่าลืมว่า เสียดายดีกว่าเสียใจและต้องเสียเงินทองมากมายในการเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัว แต่หากพร้อมแล้วก็เริ่มต้นกันได้เลย

———————————————————————–

พิเศษ! Download ฟรี E-Book “สุดยอด 50 ธุรกิจและอาชีพที่น่าสนใจในปี 2020”