
การเริ่มต้นธุรกิจก็เหมือนกับการจะออกเดินทางไกล ผู้คนจำนวนมากมักใช้เวลาไปกับการเตรียมพร้อม วางแผนเส้นทาง เลือกพาหนะที่สมบูรณ์แบบที่สุด ตรวจเช็คเครื่องยนต์ให้แน่ใจว่าไม่มีข้อผิดพลาดแม้แต่น้อย แต่ในระหว่างที่กำลังรอความพร้อมที่สมบูรณ์แบบนั้น โอกาสและผู้โดยสารอาจจะหายไปจากเส้นทางแล้ว ในโลกของธุรกิจ โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่กำลังก้าวเข้าสู่สนามนี้เป็นครั้งแรก หัวใจสำคัญไม่ได้อยู่ที่การรอคอยให้ทุกอย่างสมบูรณ์แบบ แต่คือการลงมือทำด้วยความเร็ว เรียนรู้ และปรับปรุงไปเรื่อยๆ
เหตุผลที่ความเร็วเหนือกว่าความสมบูรณ์แบบสำหรับธุรกิจขนาดเล็กนั้นมีหลายประการ ประการแรกคือ ตลาดและพฤติกรรมของผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ไอเดียที่คิดว่าดีเลิศในวันนี้ อาจล้าสมัยในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า การลงมือทำอย่างรวดเร็วทำให้ทดสอบไอเดียในตลาดจริงได้ก่อนคู่แข่ง ได้รับฟีดแบ็กจากลูกค้าเพื่อนำมาปรับปรุงผลิตภัณฑ์หรือบริการให้ตรงใจมากยิ่งขึ้น การมัวแต่รอคอยความสมบูรณ์แบบอาจทำให้พลาดช่วงเวลาสำคัญที่ตลาดต้องการสิ่งนั้นไป
ประการที่สอง ความสมบูรณ์แบบมักเป็นภาพลวงตา ธุรกิจไม่ได้เติบโตจากการวางแผนที่ไม่มีที่ติเพียงอย่างเดียว แต่เติบโตมาจากการทดลอง การผิดพลาด และการแก้ไขอย่างต่อเนื่อง การลงมือทำอย่างรวดเร็ว เปิดโอกาสให้เกิดวงจรการเรียนรู้นี้ได้เร็วขึ้น ลองผิดลองถูกได้อย่างรวดเร็ว ในขณะที่ธุรกิจขนาดใหญ่อาจมีขั้นตอนการตัดสินใจที่ซับซ้อนและล่าช้า ธุรกิจเล็กมีความได้เปรียบตรงที่สามารถพลิกแพลงและปรับตัวได้อย่างว่องไว เปรียบได้กับการที่เรือเล็กสามารถเลี้ยวและเปลี่ยนทิศทางได้เร็วกว่าเรือขนาดใหญ่ในมหาสมุทรแห่งการแข่งขัน
ประการสุดท้าย ธุรกิจขนาดเล็กมีข้อจำกัดด้านทรัพยากร ทั้งเวลา เงินทุน และบุคลากร การใช้เวลาไปกับการวางแผนที่ไม่สิ้นสุด หรือการทุ่มเททรัพยากรทั้งหมดเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่สมบูรณ์แบบตั้งแต่แรกเริ่มโดยไม่ผ่านการทดสอบใดๆ เป็นการสิ้นเปลืองทรัพยากรอย่างมาก การลงมือทำในเวอร์ชั่นที่เพียงพอ (Minimum Viable Product หรือ MVP) แล้วนำออกสู่ตลาดเพื่อรับฟีดแบ็กจริง จะช่วยลดความเสี่ยงและประหยัดทรัพยากรได้มหาศาล และยังช่วยให้เข้าใจลูกค้าได้อย่างลึกซึ้ง
เคยได้ยินเรื่องราวของร้านขนมโฮมเมดเล็กๆ ที่เริ่มจากการทำขายทางออนไลน์ง่ายๆ โดยไม่ได้มีบรรจุภัณฑ์ที่สวยงาม หรือมีเมนูให้เลือกมากมายนัก แต่เน้นที่รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์และการจัดส่งที่รวดเร็ว เจ้าของร้านไม่ได้รอให้มีหน้าร้านที่ตกแต่งอย่างสวยงาม หรือลงทุนซื้อเครื่องจักรแพงๆ แต่เริ่มต้นด้วยสิ่งที่สามารถทำได้ทันที ใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียเป็นหน้าร้าน แล้วรับฟังความคิดเห็นจากลูกค้าที่สั่งซื้อไป ปรับปรุงสูตร ปรับปรุงบริการ และค่อยๆ เพิ่มเมนูตามความต้องการของตลาด การลงมือทำอย่างรวดเร็วนี้เองที่ทำให้ร้านเล็กๆ แห่งนี้สามารถสร้างฐานลูกค้าที่ภักดี และเติบโตจนสามารถเปิดหน้าร้านของตัวเองได้ในเวลาต่อมา
ฉะนั้น สำหรับผู้ที่กำลังมีความฝันอยากเริ่มต้นธุรกิจ แต่ยังรู้สึกสับสน ไม่แน่ใจว่าจะเริ่มต้นอย่างไร ขอให้จำไว้ว่า การลงมือทำคืออาวุธที่ทรงพลังที่สุด อย่ามัวแต่รอให้ทุกอย่างสมบูรณ์แบบ ขอเพียงแค่เริ่มก้าวแรก เริ่มต้นจากสิ่งเล็กๆ ที่สามารถทำได้ ลงมือทำ ทดลอง ล้มเหลว และลุกขึ้นใหม่ วงจรความเร็วนี้เองที่จะสร้างความได้เปรียบ และนำทางธุรกิจเล็กๆ สู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่กว่าที่คิดไว้
สำหรับผู้ที่อยากเริ่มต้นธุรกิจและต้องการที่ปรึกษาในการวางแผนธุรกิจและการตลาดให้สำเร็จในก้าวแรก สามารถติดตามข่าวสารและเคล็ดลับดีๆ หรือทักเข้ามาพูดคุยกับ Smart Startup ได้โดยตรงที่ Facebook Page: https://www.facebook.com/smartstartupthailand