วิธีคำนวณ ‘จุดคุ้มทุน’ แบบง่ายที่สุดในโลก: รู้ว่าต้องขายเท่าไหร่ถึงจะไม่เจ๊ง

คุณมีความฝันอยากมีธุรกิจของตัวเอง แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไงใช่มั้ย และอาจมีความกังวลอยู่ลึกๆ ว่าถ้าเริ่มต้นไปแล้วจะเจ๊ง จะขาดทุนมั้ย ความรู้สึกไม่มั่นคงเหล่านี้เกิดขึ้นได้กับทุกคนที่กำลังก้าวสู่โลกธุรกิจ แต่กุญแจสำคัญที่จะช่วยปลดล็อกความกังวลและทำให้ก้าวแรกมั่นคงได้ คือการเข้าใจและรู้ ‘จุดคุ้มทุน’ มันไม่ใช่แค่เรื่องตัวเลขยุ่งยาก แต่คือแผนที่สำคัญที่จะบอกว่าต้องขายสินค้าหรือบริการเท่าไหร่ถึงจะไม่ขาดทุนและเริ่มทำกำไร

การรู้จุดคุ้มทุนจึงเป็นก้าวแรกที่สำคัญที่สุดในการทำธุรกิจ ไม่ใช่แค่รู้ว่าต้องลงทุนเท่าไหร่ แต่ต้องรู้ว่าเราจะต้องสร้างยอดขายได้เท่าไหร่ในจำนวนหน่วยหรือจำนวนเงินถึงจะครอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้งหมดและสามารถยืนอยู่ได้ด้วยตัวเอง

ทำไมการรู้จุดคุ้มทุนจึงสำคัญกับธุรกิจขนาดเล็ก

จุดคุ้มทุนเป็นเหมือนเข็มทิศที่ช่วยนำทางให้ธุรกิจขนาดเล็กไม่หลงทิศทางและจมอยู่กับการขาดทุน หลายครั้งที่ธุรกิจเริ่มต้นขึ้นมาด้วยไอเดียที่ยอดเยี่ยม แต่กลับต้องปิดตัวลงไปอย่างน่าเสียดายเพียงเพราะผู้ประกอบการไม่เข้าใจโครงสร้างต้นทุนและไม่รู้ว่าต้องสร้างรายรับเท่าไหร่ถึงจะพยุงธุรกิจให้อยู่รอดได้ การคำนวณจุดคุ้มทุนจะช่วยให้มองเห็นภาพรวมของค่าใช้จ่ายทั้งหมด ทั้งที่เป็นค่าใช้จ่ายประจำที่ต้องจ่ายทุกเดือน และค่าใช้จ่ายที่ผันแปรไปตามปริมาณการผลิตหรือการขาย และที่สำคัญมันช่วยป้องกันการตัดสินใจผิดพลาดที่อาจนำไปสู่การขาดทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

หัวใจของการคำนวณจุดคุ้มทุนง่ายๆ ประกอบด้วย 3 ส่วนหลักที่เข้าใจได้ไม่ยาก ส่วนแรกคือ ‘ค่าใช้จ่ายคงที่’ หรือ Fixed Cost เป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นประจำไม่ว่าจะขายได้หรือไม่ เช่น ค่าเช่าพื้นที่ เงินเดือนพนักงานประจำ ค่าเสื่อมราคาอุปกรณ์ ส่วนที่สองคือ ‘ค่าใช้จ่ายผันแปร’ หรือ Variable Cost ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่เปลี่ยนไปตามปริมาณการผลิตหรือการขาย เช่น ค่าวัตถุดิบ ค่าแรงรายวัน ค่าคอมมิชชั่นพนักงานขาย และส่วนสุดท้ายคือ ‘ราคาขายต่อหน่วย’ หรือราคาที่เราตั้งใจจะขายสินค้าหรือบริการนั้นๆ

เมื่อเข้าใจส่วนประกอบเหล่านี้แล้ว สูตรการคำนวณจุดคุ้มทุนที่ง่ายที่สุดในโลกมีอยู่สองแบบ แบบแรกคือการหา ‘จำนวนหน่วย’ ที่ต้องขายเพื่อคุ้มทุน และแบบที่สองคือการหา ‘จำนวนเงิน’ ที่ต้องขายเพื่อคุ้มทุน

จุดคุ้มทุน (จำนวนหน่วย) = ค่าใช้จ่ายคงที่ / (ราคาขายต่อหน่วย – ค่าใช้จ่ายผันแปรต่อหน่วย) จุดคุ้มทุน (จำนวนเงิน) = ค่าใช้จ่ายคงที่ / (1 – (ค่าใช้จ่ายผันแปรต่อหน่วย / ราคาขายต่อหน่วย))

อย่าเพิ่งท้อกับตัวเลขที่เห็น เพราะแท้จริงแล้วมันคือเครื่องมือช่วยวางแผนที่ทรงพลังที่สุดเครื่องมือหนึ่ง

เรื่องราวของร้านกาแฟเล็กๆ ที่รอดได้เพราะจุดคุ้มทุน

มีเรื่องเล่าจากประสบการณ์ตรงของที่ปรึกษาธุรกิจคนหนึ่ง ถึงร้านกาแฟเล็กๆ แห่งหนึ่งในซอยลึกที่บริหารโดยน้องผู้หญิงคนหนึ่ง ตอนที่เธอมาปรึกษา เธอบอกว่ารักการทำกาแฟมาก ฝันมาตลอดว่าอยากมีร้านเป็นของตัวเอง แต่พอเปิดไปได้ 3 เดือน เงินเก็บร่อยหรอและรู้สึกท้อแท้ เพราะไม่รู้ว่าทำไมถึงยังไม่มีกำไร ทั้งๆ ที่ก็มีลูกค้าเข้าร้านตลอด ที่ปรึกษาจึงชวนเธอนั่งคุยและลองคำนวณจุดคุ้มทุนแบบง่ายๆ

น้องผู้หญิงคนนี้มีค่าใช้จ่ายคงที่ต่อเดือน เช่น ค่าเช่าร้าน 10,000 บาท เงินเดือนตัวเอง 15,000 บาท ค่าอุปกรณ์ผ่อน 3,000 บาท รวมเป็น 28,000 บาท ค่าใช้จ่ายผันแปรต่อแก้ว เช่น ค่าเมล็ดกาแฟ นม น้ำแข็ง แก้ว ประมาณ 20 บาทต่อแก้ว ราคาขายกาแฟเฉลี่ย 80 บาทต่อแก้ว เมื่อนำมาคำนวณ จุดคุ้มทุน (จำนวนหน่วย) = 28,000 / (80 – 20) = 28,000 / 60 = ประมาณ 467 แก้วต่อเดือน หรือเฉลี่ยประมาณ 16 แก้วต่อวัน

เมื่อน้องผู้หญิงคนนั้นรู้ว่าต้องขายกาแฟขั้นต่ำ 16 แก้วต่อวันถึงจะเริ่มคุ้มทุน เธอถึงกับอึ้ง เพราะที่ผ่านมาบางวันขายได้แค่ 10-12 แก้วเท่านั้น ทำให้ชัดเจนว่าทำไมถึงยังขาดทุน สิ่งนี้ทำให้เธอเห็นภาพชัดเจนและสามารถวางแผนกลับมาได้ใหม่ เช่น การปรับลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น, การทำโปรโมชั่นจูงใจลูกค้าช่วงวันธรรมดาเพื่อเพิ่มยอดขาย, หรือแม้กระทั่งการหาช่องทางขายเดลิเวอรี่เพิ่มเติม เพียงแค่เธอเข้าใจตัวเลขจุดคุ้มทุน การตัดสินใจต่างๆ ก็มีทิศทางมากขึ้น ร้านกาแฟของน้องคนนี้ค่อยๆ ฟื้นตัวและเริ่มมีกำไรเล็กๆ น้อยๆ จนปัจจุบันสามารถเลี้ยงตัวเองและร้านได้อย่างมั่นคง

จุดคุ้มทุนจึงไม่ใช่แค่ตัวเลขที่น่าเบื่อ แต่มันคือพื้นฐานสำคัญของการทำธุรกิจ เป็นเหมือนภูมิคุ้มกัน เป็นแผนที่นำทางที่ช่วยให้เราก้าวเดินได้อย่างมั่นคงในทุกย่างก้าวของการเป็นเจ้าของกิจการ การเริ่มต้นธุรกิจไม่จำเป็นต้องยากเสมอไป เพียงแค่เข้าใจหลักการง่ายๆ และนำไปปรับใช้จริง ทุกคนก็สามารถเป็นเจ้าของธุรกิจที่ประสบความสำเร็จได้ เพียงแค่เริ่มต้นเรียนรู้และลงมือทำอย่างมีทิศทาง

สำหรับผู้ที่อยากเริ่มต้นธุรกิจและต้องการที่ปรึกษาในการวางแผนธุรกิจและการตลาดให้สำเร็จในก้าวแรก สามารถติดตามข่าวสารและเคล็ดลับดีๆ หรือทักเข้ามาพูดคุยกับเราได้โดยตรงที่ Facebook Page: https://www.facebook.com/smartstartupthailand