The E-Myth: ทำไมการทำงาน “ใน” ธุรกิจ แตกต่างจากการทำงาน “บน” ธุรกิจ

เคยรู้สึกไหมว่า ยิ่งทำงานหนักเท่าไหร่ ธุรกิจก็ยิ่งผูกติดอยู่กับตัวเองมากเท่านั้น การเริ่มต้นธุรกิจของตัวเองคือความฝันของใครหลายคน ทั้งคนทำงานประจำที่อยากมีอิสระ แม่บ้านที่อยากสร้างรายได้ หรือใครก็ตามที่อยากเป็นนายตัวเอง แต่หลายครั้งความฝันนั้นก็กลายเป็นกับดักที่ทำให้รู้สึกเหนื่อยล้า ไม่ต่างจากการเป็นลูกจ้าง เพียงแต่คราวนี้คือลูกจ้างของธุรกิจตัวเอง หากกำลังพบเจอกับสถานการณ์แบบนี้ นั่นเป็นเพราะอาจกำลัง “ทำงานในธุรกิจ” มากเกินไป แทนที่จะ “ทำงานบนธุรกิจ” ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญสู่ความสำเร็จที่ยั่งยืน

ทำงาน “ใน” ธุรกิจ (Working In the Business)

การทำงานในธุรกิจหมายถึงการจมปลักอยู่กับงานประจำวัน การลงมือทำด้วยตัวเองในทุกขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นการผลิต การขาย การบริการลูกค้า หรือการจัดการเอกสารต่างๆ เปรียบเหมือนกับการเป็นช่างฝีมือผู้ชำนาญในกิจการของตัวเอง สิ่งนี้เป็นเรื่องจำเป็นในช่วงเริ่มต้นธุรกิจเพราะต้องสร้างความมั่นใจในคุณภาพและเรียนรู้ทุกแง่มุมด้วยตัวเอง อย่างไรก็ตาม หากยังคงยึดติดกับการทำงานในรูปแบบนี้ไปเรื่อยๆ ธุรกิจก็จะไม่สามารถเติบโตได้อย่างเต็มศักยภาพ เพราะการเติบโตจะขึ้นอยู่กับขีดความสามารถและเวลาที่มีจำกัดของเจ้าของเพียงผู้เดียว

ทำงาน “บน” ธุรกิจ (Working On the Business)

ในทางตรงกันข้าม การทำงานบนธุรกิจคือการก้าวออกมามองภาพรวมของกิจการ การวางแผนกลยุทธ์ การสร้างระบบการทำงานที่เป็นมาตรฐาน การพัฒนาทีมงาน และการหาแนวทางใหม่ๆ เพื่อการเติบโตและขยายธุรกิจ การทำงานแบบนี้จะช่วยให้ธุรกิจสามารถดำเนินไปได้ด้วยตัวเองแม้ไม่มีเจ้าของอยู่ในทุกขั้นตอน ช่วยลดภาระและสร้างอิสระให้กับผู้ประกอบการ ทำให้มีเวลาไปคิดค้นสิ่งใหม่ๆ หรือขยายสาขาได้ตามที่ต้องการ สิ่งนี้คือกุญแจสำคัญที่ทำให้ธุรกิจจากที่เคยเป็นเพียงงานอดิเรก หรืองานเสริมเล็กๆ สามารถเติบโตกลายเป็นองค์กรที่มั่นคงและมีระบบ

กรณีศึกษาเปรียบเทียบ: เจ้าของร้านกาแฟ

ลองจินตนาการถึงเจ้าของร้านกาแฟเล็กๆ ที่เริ่มต้นด้วยความหลงใหลในการชงกาแฟ

  • ทำงานในธุรกิจ: เจ้าของลงมือชงกาแฟเองทุกแก้ว จัดการเรื่องสต็อกเอง ดูแลหน้าร้านเอง และคิดเมนูใหม่ๆ เองทั้งหมด ทุกวันต้องตื่นแต่เช้ามืดเพื่อเปิดร้านและทำงานจนดึกดื่น ร้านดำเนินไปได้ดี แต่เจ้าของกลับเหนื่อยล้า ไม่สามารถลาพักร้อนได้นานๆ และถ้าป่วย ร้านก็ต้องปิดลง สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าธุรกิจถูกผูกติดอยู่กับตัวเจ้าของอย่างแยกไม่ออก
  • ทำงานบนธุรกิจ: เจ้าของร้านกาแฟคนนี้เริ่มจากการกำหนดสูตรกาแฟที่เป็นมาตรฐาน ฝึกอบรมบาริสต้าคนอื่นๆ ให้ชงกาแฟได้รสชาติเดียวกัน สร้างระบบจัดการสต็อกสินค้าที่รัดกุม วางแผนการตลาดเพื่อให้ลูกค้ารู้จักร้านมากขึ้น และอาจมองหาทำเลที่ตั้งใหม่เพื่อเปิดสาขาที่สอง สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ธุรกิจสามารถดำเนินต่อไปได้แม้เจ้าของไม่ได้ชงกาแฟเองทุกแก้ว มีระบบรองรับการเติบโต และเจ้าของมีเวลามากขึ้นเพื่อคิดเรื่องการขยายแบรนด์ให้ไปไกลกว่าเดิมได้

การเปลี่ยนผ่านจากการทำงานในธุรกิจไปสู่การทำงานบนธุรกิจอาจไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องใช้ทั้งความรู้ ความอดทน และความกล้าที่จะมอบหมายงานและไว้วางใจผู้อื่น แต่สิ่งนี้คือการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับอนาคตของธุรกิจ การสร้างระบบที่แข็งแกร่ง การวางแผนที่รอบคอบ และการมองการณ์ไกล จะช่วยให้ธุรกิจไม่เพียงแต่รอด แต่ยังสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน และนำพาผู้ประกอบการไปสู่ความสำเร็จและอิสรภาพที่แท้จริงจากการเป็นเจ้าของกิจการ

สำหรับผู้ที่อยากเริ่มต้นธุรกิจและต้องการที่ปรึกษาในการวางแผนธุรกิจและการตลาดให้สำเร็จในก้าวแรก สามารถติดตามข่าวสารและเคล็ดลับดีๆ หรือทักเข้ามาพูดคุยกับเราได้โดยตรงที่ Facebook Page: https://www.facebook.com/smartstartupthailand