
หลายธุรกิจไทยพยายามผลิตคอนเทนต์ทุกวันแต่กลับไม่ได้รับการตอบรับจากตลาดต่างประเทศเท่าที่ควร ทั้งที่คุณภาพสินค้าไม่ได้ด้อยไปกว่าตลาดอื่น ความท้าทายจึงไม่ใช่เรื่องของ “สินค้าไม่ดี” แต่เป็น “การสื่อสาร” ที่ไม่เชื่อมโยงกับความสนใจของโลกในแบบที่เข้าใจเขาจริง ๆ
สิ่งที่คนไทยมักเข้าใจผิดคือ คิดว่าการแปลภาษาไทยเป็นอังกฤษแล้วโพสต์ลงไปคือการทำตลาดต่างประเทศ แต่ในความเป็นจริง “คอนเทนต์ที่คนทั่วโลกอยากแชร์” ไม่ใช่แค่เข้าใจได้ แต่ต้อง “สื่อสารให้รู้สึก” ด้วย
คนใน Pinterest, Medium หรือแม้แต่ LinkedIn ไม่ได้อยากรู้ว่าสินค้าไทยราคาถูกหรือจัดโปรโมชันอะไร พวกเขาสนใจว่า:
- สินค้านี้จะช่วยให้เขารู้สึกดีขึ้นได้อย่างไร
- มีแรงบันดาลใจอะไรอยู่เบื้องหลัง
- ทำไมชิ้นงานนี้จึงมีความหมายในระดับวัฒนธรรม
- แล้วเขาจะเอาไปใช้ในชีวิตหรือแบรนด์ของเขาได้อย่างไร
ตัวอย่างเช่น SME ที่ขายกระเป๋าผ้าฝ้ายไทย หากโพสต์ว่า “กระเป๋าผ้าฝ้ายทำมือ ราคาพิเศษ” ย่อมไม่ดึงดูดเท่าโพสต์ว่า
“Woven by a 73-year-old grandmother in rural Chiang Mai, this bag carries not only essentials—but heritage.”
นี่คือการเล่า “หัวใจ” ไม่ใช่แค่ “หัวข้อ”
คอนเทนต์ที่โลกสนใจต้องมี 3 องค์ประกอบสำคัญ:
- Emotional Hook (เกี่ยวใจตั้งแต่ต้น)
เริ่มต้นด้วยภาพ คำ หรือเรื่องราวที่กระตุ้นความรู้สึก เช่น “ทุกใบมีชื่อคนทอ” หรือ “ออกแบบเพื่อช่วยเด็กหญิงในชุมชน” - Value Frame (ชัดว่ามีคุณค่ากับผู้ชม)
อธิบายให้เห็นว่าสินค้าหรือเรื่องเล่านี้จะไปเติมเต็มคุณค่าในชีวิตของคนดูได้อย่างไร ไม่ใช่แค่ข้อมูลหรือข้อดี - Global Angle (เชื่อมโยงกับสิ่งที่โลกกำลังพูดถึง)
ใช้คำหรือแนวคิดที่เข้ากับเทรนด์โลก เช่น sustainability, minimal living, neurodivergent-friendly, slow made, story-driven branding ฯลฯ
การจะสื่อสารให้น่าสนใจต่อผู้ชมต่างชาติจึงไม่ใช่แค่การ “แปลคำ” แต่คือการ “แปลคุณค่า” ให้เข้ากับรสนิยมและความรู้สึกของคนดูในวัฒนธรรมนั้น ๆ
เพราะโลกไม่ได้แชร์สินค้าที่ดี แต่โลกแชร์สิ่งที่เขารู้สึกว่าอยากเป็นส่วนหนึ่งด้วย