
เคยรู้สึกไหมว่าการเริ่มต้นธุรกิจดูเป็นเรื่องยากเกินเอื้อม ทั้งที่ใจอยากมีกิจการเป็นของตัวเอง แต่กลับไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนดี หลายคนมักจะติดอยู่กับการ ‘ตามหา Passion’ หรือสิ่งที่รักอย่างแท้จริง เพื่อจะนำมาปั้นเป็นธุรกิจ แต่บ่อยครั้งการตามหาสิ่งนี้กลับทำให้เสียเวลาและอาจไม่นำไปสู่ธุรกิจที่ยั่งยืนเสมอไป หัวใจสำคัญของการสร้างธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ ไม่ได้อยู่ที่ Passion ที่มีเป็นอันดับแรก แต่กลับอยู่ที่ความสามารถในการมองเห็น ‘ปัญหา’ และนำเสนอ ‘ทางออก’ ให้กับผู้คนในตลาดต่างหาก
การมองปัญหาไม่ได้หมายถึงการจมดิ่งกับสิ่งเลวร้าย แต่เป็นการฝึกฝนสายตาให้มองเห็นช่องว่าง ความต้องการที่ยังไม่ได้รับการตอบสนอง หรือความไม่สะดวกสบายที่ผู้คนกำลังเผชิญอยู่รอบตัว เมื่อสามารถระบุปัญหาที่ชัดเจนได้ นั่นคือจุดเริ่มต้นของไอเดียธุรกิจที่มีรากฐานแข็งแกร่ง เพราะผู้คนมักจะยินดีจ่ายเพื่อแก้ปัญหาที่กวนใจพวกเขา
เหตุผลที่การแก้ปัญหาเป็นทางลัดสู่ไอเดียธุรกิจที่ตลาดต้องการคือ ประการแรก มันคือการสร้างคุณค่าที่จับต้องได้ ผู้บริโภคไม่ได้ซื้อสินค้าหรือบริการเพียงเพราะมันสวยงามหรือน่าสนใจ แต่พวกเขาซื้อเพราะมันสามารถทำให้ชีวิตดีขึ้น สะดวกขึ้น หรือแก้ปัญหาส่วนตัวได้จริง เมื่อธุรกิจตอบโจทย์ความต้องการพื้นฐานนี้ได้ โอกาสในการเติบโตและการสร้างฐานลูกค้าที่ภักดีก็ย่อมมีสูงกว่ามาก
ประการที่สอง การมองปัญหาช่วยให้สร้างความแตกต่างจากคู่แข่งได้ง่ายขึ้น ในตลาดที่มีสินค้าและบริการจำนวนมาก การที่ธุรกิจสามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะจุดให้กับกลุ่มเป้าหมายได้ จะทำให้โดดเด่นและมีข้อได้เปรียบที่ชัดเจน แทนที่จะมุ่งเน้นเพียงแค่ความชอบส่วนตัว การมองปัญหาจะผลักดันให้คิดค้นโซลูชันที่แท้จริงและมีความต้องการในตลาดอย่างชัดเจน
ประการสุดท้าย การเริ่มต้นจากปัญหาทำให้ธุรกิจมีความยืดหยุ่นและปรับตัวได้ดีกว่า เพราะปัญหาของผู้คนมักมีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาอยู่เสมอ การฝึกฝนตนเองให้เป็นนักแก้ปัญหา จะทำให้สามารถปรับปรุงและพัฒนาสินค้าหรือบริการให้ทันต่อความต้องการของตลาดอยู่เสมอ และเมื่อสร้างธุรกิจที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้คนได้อย่างแท้จริง ความหลงใหลในสิ่งที่ทำ หรือ Passion ก็จะค่อยๆ ก่อตัวขึ้นตามมาเองจากการได้เห็นผลลัพธ์และคุณค่าที่สร้างให้กับสังคม
ลองจินตนาการถึงเรื่องราวของคุณนก แม่บ้านที่มองเห็นปัญหาใกล้ตัว เธอพบว่าเพื่อนบ้านและคนรู้จักหลายคน โดยเฉพาะกลุ่มคนทำงานหรือผู้สูงอายุ มักประสบปัญหาในการจัดระเบียบบ้าน ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าล้นตู้ ของใช้กระจัดกระจาย หรือพื้นที่ใช้สอยไม่เพียงพอ พวกเขาไม่มีเวลา ไม่มีแรง และไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไรดี คุณนกไม่ได้มีความหลงใหลในการจัดระเบียบตั้งแต่แรก แต่เธอเห็น ‘ปัญหา’ นี้ชัดเจน เธอจึงเริ่มเสนอตัวช่วยจัดระเบียบบ้านเล็กๆ น้อยๆ ให้กับเพื่อนบ้านในละแวกใกล้เคียง โดยเน้นความเข้าใจในปัญหาของแต่ละบ้านและหาวิธีจัดเก็บที่เป็นระบบ
จากจุดเริ่มต้นเล็กๆ นี้เอง คุณนกค่อยๆ เรียนรู้เทคนิคการจัดระเบียบเพิ่มเติม ศึกษาหลักจิตวิทยาการจัดบ้าน และพัฒนาบริการให้มีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น จากปากต่อปาก ธุรกิจ ‘ช่วยจัดระเบียบชีวิต’ ของคุณนกก็ค่อยๆ เติบโตขึ้น มีลูกค้าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนเธอต้องจ้างทีมงานมาช่วยขยายบริการ ปัจจุบันธุรกิจของคุณนกเป็นที่รู้จักในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดระเบียบบ้านและพื้นที่ใช้สอย ที่สามารถเปลี่ยนความยุ่งเหยิงให้กลายเป็นความสบายใจของลูกค้าได้ เรื่องราวของคุณนกแสดงให้เห็นว่า ไม่จำเป็นต้องเริ่มต้นด้วย Passion ที่ยิ่งใหญ่ แต่เริ่มต้นจากการมองเห็นปัญหาที่อยู่รอบตัว และกล้าที่จะนำเสนอทางออก นั่นแหละคือเมล็ดพันธุ์แห่งความสำเร็จที่แท้จริง
การเริ่มต้นธุรกิจ ไม่ใช่เรื่องของการตามหาสิ่งที่หลงใหลเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการฝึกฝนสายตาให้มองเห็น ‘ปัญหา’ และเปลี่ยนมันให้กลายเป็น ‘โอกาส’ เมื่อมองเห็นปัญหา จะมองเห็นความต้องการ เมื่อแก้ไขปัญหาได้ จะสร้างคุณค่า และเมื่อสร้างคุณค่าได้ ก็จะสร้างธุรกิจที่เติบโตและยั่งยืนได้ในที่สุด อย่ามัวแต่ตามหา Passion ที่อาจจะยังไม่เจอ ลองเปลี่ยนมุมมอง มาเป็นนักสังเกตปัญหา แล้วลงมือแก้ไขดู รับรองว่าจะค้นพบเส้นทางสู่ไอเดียธุรกิจที่ไม่เพียงแต่ตอบโจทย์ตลาด แต่ยังสร้างความภาคภูมิใจให้กับตัวคุณเองได้ด้วย
สำหรับผู้ที่อยากเริ่มต้นธุรกิจและต้องการที่ปรึกษาในการวางแผนธุรกิจและการตลาดให้สำเร็จในก้าวแรก สามารถติดตามข่าวสารและเคล็ดลับดีๆ หรือทักเข้ามาพูดคุยกับ Smart Startup ได้โดยตรงที่ Facebook Page: https://www.facebook.com/smartstartupthailand