Case Study: ธุรกิจเล็กที่โตเท่าตัวเพราะร่วมมือกับคนที่ ‘ไม่ได้ขายของเหมือนกัน’

เมื่อพูดถึงการ Collaboration เจ้าของธุรกิจจำนวนมากมักมองหา “แบรนด์ที่ขายของคล้ายกัน” หรือ “อยู่ในหมวดเดียวกัน” เช่น เสื้อผ้ากับเครื่องประดับ, กาแฟกับขนม หรือคอร์สเรียนกับหนังสือเสริม แต่ความจริงที่เจ้าของ SME หลายคนยังไม่รู้คือ Collab ที่ทรงพลังที่สุด มักเกิดจากธุรกิจที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกันเลย — ในแง่สินค้า

เพราะสิ่งที่คนไทยเลือกซื้อวันนี้ ไม่ได้อยู่ที่ “สินค้า” อย่างเดียว แต่อยู่ที่ “ความรู้สึกเชื่อมโยงระหว่างแบรนด์” และเมื่อคุณสามารถเชื่อมโยงสองโลกที่ดูไม่เกี่ยวกันเข้าด้วยกันได้อย่างแนบเนียน นั่นคือการสร้างแรงกระเพื่อมใหม่ในตลาดที่ไม่มีใครแข่งกับคุณได้

ในบทความนี้ เราจะพาคุณดู Case Study ที่เกิดขึ้นจริงของธุรกิจเล็ก 3 เคส ที่สร้างยอดขาย, ผู้ติดตาม, และฐานลูกค้าใหม่จากการร่วมมือกับ “คนละวงการ” อย่างสิ้นเชิง พร้อมแนวทางลงมือใช้ได้ทันที


📌 Case 1: ร้านเทียนหอมในเชียงราย + โค้ชสอน Self-Love ออนไลน์

จุดร่วม: ความรู้สึก “พักใจ” และ “ดูแลตัวเอง”
สินค้า: เทียนหอม | คอร์สออนไลน์
สิ่งที่ทำร่วมกัน: สร้าง eBook ชื่อ “7 Rituals for a Kind Evening”
→ โค้ชเขียนเนื้อหาเทคนิคใจสงบ | ร้านเทียนออกแบบ Ritual Card | แจกฟรีผ่าน LINE ทั้งสองฝั่ง
ผลลัพธ์:

  • Follower เพิ่ม 1,100 คนใน 5 วัน
  • ยอดขายเทียน Trial Set เพิ่ม 2.5 เท่า
  • มีคนสมัครคอร์สแบบ Bundle ผ่านลิงก์ที่แถมใน Card

Key Success: เขาไม่ได้ขายเทียน ไม่ได้ขายคอร์ส — แต่ “ขายค่ำคืนที่รู้สึกว่าเราใส่ใจตัวเอง”

ใช้ได้เลย: Collab Value-to-Feeling Mapping Sheet ช่วยวางว่าแต่ละแบรนด์สื่ออารมณ์อะไร แล้วรวมกันได้ตรงไหน


📌 Case 2: ร้านข้าวกล่องสุขภาพ + ครูโยคะสาย Zoom

จุดร่วม: “คนทำงานที่อยากเริ่มดูแลตัวเองแบบไม่ซับซ้อน”
สินค้า: ข้าวกล่องรายสัปดาห์ | คอร์สโยคะเช้า 15 นาที
สิ่งที่ทำร่วมกัน: ระบบสมัครกล่องข้าว → แถมคลาสโยคะฟรี 7 วัน | ระบบคลาสโยคะ → มีส่วนลดกล่องข้าว
วิธีลงมือ: ใช้ Google Form ร่วมกัน, ทำภาพเดียวโพสต์ทั้งคู่, ใช้ LINE OA แยกแต่บอกเหมือนกัน
ผลลัพธ์:

  • กล่องข้าวขายได้เพิ่ม 40% ใน 10 วัน
  • ครูโยคะได้สมัครสมาชิกใหม่จากกลุ่มที่ไม่เคยคิดจะโยคะมาก่อน

Key Success: ลูกค้าไม่ได้รู้สึกว่ากำลังซื้อสินค้า 2 ชิ้น — แต่รู้สึกว่า “มีระบบใหม่ที่ช่วยให้เช้าเราดีขึ้นได้เลย”

ใช้ได้เลย: Bundle Mapping Template + Joint Promo Timeline Planner


📌 Case 3: ร้านขายกระถางต้นไม้ + เจ้าของเพจให้คำปรึกษาธุรกิจ

จุดร่วม: คนเริ่มต้นทำอะไรใหม่ ๆ ที่ “อยากให้มันอยู่รอด”
สินค้า: กระถางเซรามิก | Coaching ธุรกิจ
สิ่งที่ทำร่วมกัน: Mini Series บน Facebook:
“ต้นไม้ที่รอด = ธุรกิจที่อยู่ได้” → โพสต์ 5 ตอน: วิธีรดน้ำ = วิธีสื่อสาร, ดิน = การเงิน, แสง = พลังทีม ฯลฯ
รูปแบบ: โค้ชเขียนข้อความ + ร้านทำภาพและแจกโค้ดลด
ผลลัพธ์:

  • Organic Reach รวมกว่า 22,000 ในโพสต์ชุดนั้น
  • Follower ร้านเพิ่ม 3 เท่า
  • คนเริ่มแชร์โพสต์ด้วยแคปชันว่า “วันนี้ฉันเข้าใจธุรกิจเพราะเข้าใจต้นไม้”

Key Success: ทุกอย่างดูสร้างสรรค์ ไม่ขาย — แต่สร้างความรู้สึก “แบรนด์นี้มีแนวคิดที่น่าติดตาม”


สรุป: ถ้าคุณกำลังหา Collab จากแบรนด์ที่ “เหมือนกันเกินไป” อาจยังไม่โตได้เร็วพอ

ลองมองหา:

  • คนที่ขายของคนละอย่าง แต่มีลูกค้า “กำลังรู้สึกเหมือนกัน”
  • คู่ที่อยู่คนละวงการ แต่เล่าเรื่องในธีมเดียวกันได้
  • แบรนด์ที่ยังไม่มี “อะไรบางอย่าง” ที่คุณสามารถเติมได้ในแบบที่เขาไม่ต้องจ่ายเพิ่ม

Collab ที่ดีไม่ใช่แค่การ Cross Promote
แต่คือ “การรวมความรู้สึกที่ลูกค้ากำลังมองหา แล้วทำให้เขารู้สึกว่าแบรนด์ของคุณตอบโจทย์แบบครบวงจร”