เหตุผลที่ไม่สามารถเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัว?

มีหลายคนที่มีไอเดีย มีฝันในการธุรกิจ หากลองแบ่งเวลาไปนั่งคุยกับคนเหล่านี้ จะรู้เลยว่าไอเดียนี่พรั่งพรูมาเยอะมากสามารถเล่าได้เป็นฉากๆฟังดูแล้วเป็นธุรกิจที่น่าสนใจ เป็นธุรกิจที่ดูมีอนาคต แต่จนแล้วจนเล่าก็ยังไม่ได้เห็นธุรกิจนั้นเป็นธุรกิจจริงๆได้เสียที จริงๆแล้วมันเป็นเพราะอะไรกันแน่ถึงทำให้ธุรกิจที่ดีเหล่านี้ กลับไม่มีช่องว่างและในหลายๆเคสที่แย่ ธุรกิจเหล่านี้ไม่เคยแม้แต่จะได้เริ่มทำเลยด้วยซ้ำ และนี่คือเหตุผลที่เราไม่สามารถเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวได้ซักที

1. ไม่มีสินค้า ไม่รู้จะขายอะไร มองไปทางไหนก็มีแต่สินค้าที่มีอยู่แล้ว มีคนทำอยู่แล้ว: 

>>>ปัญหายอดฮิตสำหรับผู้ที่ไม่รู้จะทำธุรกิจอะไร แต่หากลองมองสังเกตรอบๆตัว ของธรรมดาต่างๆที่เราเห็นเหล่านี้อาจเป็นสินค้าขายดีที่เราสามารถนำมาทำธุรกิจได้หากเราเห็นโอกาสที่ดี หากเราลองนึกดูสินค้าต่างๆในตลาดที่เราจำเป็นต้องใช้ เราจะเจอว่าสินค้าบางอย่างนั้นทำให้เราหงุดหงิดได้ตลอดเวลา แต่เราก็ยังคงใช้มันต่อไปเรื่อยๆ หากเราสังเกตุดีๆ เราจะเจอว่าหากเราคิดสินค้าขึ้นมาชิ้นนึงได้ที่แก้ปัญหาที่เราจะต้องหงุดหงิดเหล่านั้นมันจะดีแค่ไหน มันจะทำให้คนอื่นๆหายหงุดหงิดด้วยรึเปล่า หากมันสามารถแก้ปัญหาได้ให้กับคนหลายๆคน มันก็สามารถเป็นธุรกิจที่ดีได้เช่นกัน

2. ไม่มีประสบการณ์การทำธุรกิจด้วยตัวเอง:

>>>ประสบการณ์และความรู้สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ ทั้งจากหนังสือและคอร์สอบรม คอร์สเรียนต่างๆ ซึ่งคนที่เคยทำธุรกิจทุกคนก็เริ่มต้นจาก 0 เกือบทั้งนั้นแม้ว่าในบางกรณีเป็นการต่อยอดการทำธุรกิจต่อจากที่บ้าน แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าจะข้ามบทเรียนการเรียนรู้จากคนอื่นได้เช่นกัน ดังนั้นประสบการณ์สามารถสร้างได้ด้วยการศึกษาและการลงมือทำเลยทันที ทุกครั้งที่เริ่มลงมือทำและล้มเหลวเราจะเรียนรู้วิธีการที่ทำให้สำเร็จได้มากขึ้นเรื่อยๆ

3. ไม่รู้ขั้นตอนและเครื่องมือต่างๆสำหรับการทำธุรกิจ:

>>>ปัจจุบันขั้นตอนและวิธีการเครื่องมือต่างๆถูกออกแบบมาให้เพื่อง่ายสำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นทำธุรกิจแม้จะไม่คุ้นเคยกับการทำธุรกิจมาก่อน ขั้นตอนต่างๆในยุคสมัยนี้สามารถศึกษาได้และเรียนรู้ได้ด้วยการค้นคว้า ค้นหา หรือสอบถามพูดคุย นอกจากนี้เมื่อได้ข้อมูลต่างๆมามากพอแล้ว การลงมือเพื่อนำมาประยุกต์ใช้กับธุรกิจของเรานั้นก็มีความสำคัญไม่แพ้กับการศึกษาขั้นตอนต่างๆเนื่องจากแต่ละธุรกิจนั้นมีข้อจำกัดและมีความแตกต่างกัน ดังนั้นการเรียนรู้ขั้นตอนและนำมาปรับใช้จะทำให้เกิดประโยชน์และเกิดความสำเร็จได้

4. กลัวขาดทุน: >>>

การเตรียมตัวให้พร้อมและศึกษาตลาดให้ดีๆจะช่วยลดความเสี่ยงในการขาดทุนได้ ความเสี่ยงทำให้เราไม่มั่นใจ ความเสี่ยงความไม่รู้ทำให้เราไม่กล้าตัดสินใจ การลดความเสี่ยงที่ได้ผลคือการหาข้อมูลที่ไม่รู้ เข้าใจในสิ่งที่ไม่รู้มากที่สุด ดูให้รู้ว่าธุรกิจแต่ละประเภทนั้นมีข้อจำกัดอย่างไร ต้องแข่งขันอย่างไร อะไรคือจุดตายจุดบอดในธุรกิจ อย่ามองเพียงแค่ว่ามีตลาดและทุกอย่างจะทำได้เอง เพื่อลด % การขาดทุนให้ได้มากที่สุด การเข้าใจตลาดและตอบโจทย์ตลาดให้มากที่สุดจะลดโอกาสในการขาดทุนได้

5. ไม่มีทุนมากพอ:>>>

สถาบันการเงินและบริษัทต่างๆกำลังมองหาโปรเจ็กต์ที่ดี ธุรกิจที่เติบโตและพร้อมลงทุนและเติบโตไปด้วยกัน เมื่อเป็นโปรเจ็กต์ที่ดีมีอนาคตไม่เพียงแค่สถาบันการเงินเท่านั้นที่ต้องการปล่อยกู้แต่จะมีนายทุนบริษัทต่างๆหรือแม้แต่หุ้นส่วนต่างๆที่สามารถให้ความช่วยเหลือทางการเงินและเรื่องทุนเพื่อแลกเปลี่ยนกับการถือหุ้น หรือให้กู้เพื่อแลกเปลี่ยนกับดอกเบี้ย ดังนั้นคำตอบสำคัญสำหรับการเริ่มต้นธุรกิจก็คือ ธุรกิจนี้มีอนาคตและจำทำรายได้ให้กับเราและสถาบันการเงินต่างๆได้จริงแค่ไหน

6. เริ่มต้นธุรกิจเป็นเรื่องยาก: >>>

การเริ่มต้นด้วยความไม่รู้มักเป็นเรื่องยากเสมอแต่สามารถเรียนรู้และเข้าใจมันได้มากขึ้น รวมถึงการศึกษาและเรียนรู้จากประสบการณ์ของผู้ที่เคยทำธุรกิจมาก่อน เราจะสามารถเปลี่ยนเรื่องยากมากเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นได้ และเมื่อทำจนคุ้นเคย เรื่องที่เคยมองว่ายากจะกลายเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ง่ายขึ้น

สุดท้ายหากปีนี้เราต้องการสร้างธุรกิจให้จริงจัง อย่ามัวแต่แก้ตัวให้กับตัวเอง ค่อยๆเรียนรู้และศึกษาธุรกิจนั้นๆให้แตกฉานเพื่อที่จะทำตามความฝันที่เราต้องการได้อย่างจริงจังและท้ายที่สุด ไม่มีใครที่จะทำตามฝันตัวเองไม่ได้ อย่าให้ใครมาบอกเราว่าเราทำอะไรไม่ได้ แต่ก็อย่าลืมว่าทุกๆที่ทุกๆทางไม่เคยมีกลีบกุหลาบโรยเอาไว้ ทุกคนที่สำเร็จนั้นผ่านเส้นทางที่ย่ำแย่มาก่อนด้วยกันทั้งสิ้น ขอแค่ตั้งใจทำและอดทนให้มากพอ ความฝันของคุณจะเป็นจริงได้ไม่ยาก

———————————————————————–

พิเศษ! ฟรี E-Book “สุดยอด 50 ธุรกิจและอาชีพที่น่าสนใจในปี 2020”